ข้อมูลทั่วไปของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ชื่อภาษาไทย : สมาพันธรัฐสวิส: Swiss Confederation
เมืองหลวง : เบิร์น (Bern)
ภาษาราชการ : ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอิตาลี
สกุลเงิน : ฟรังก์สวิส (Swiss Franc, CHF)
จำนวนประชากร : 8,014,000 คน
การปกครอง : ระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ
Time Zone : UTC+1 (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
ที่ตั้ง
สมาพันธรัฐสวิสหรือสวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรป ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล ทิศเหนือจรดสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทิศตะวันออกจรดออสเตรียและลิคเตนสไตน์ ทิศใต้จรดอิตาลี
ทิศตะวันตกจรดฝรั่งเศส พื้นที่ 41,290 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าประเทศไทย 12 เท่า โดยพื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์อยู่บนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งทอดยาวจากทิศตะวันตก ประชากร 7,400,000 คน (ปีพ.ศ.2548)
เมืองหลวง เบิร์น
ภูมิประเทศ-ภูมิอากาศ
สวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป มีพื้นที่ 41,284 ตารางกิโลเมตร เหนือจรดใต้ยาวเพียง 220.1 กิโลเมตร
และตะวันออกจรดตะวันตกกว่างเพียง 348.4 กิโลเมตร อาณาเขตติดชายแดน 5 ประเทศ ได้แก่อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรียและ ลิคเคนไสตน์ สวิสเป็นกลางและอิสระดังนั้นการรวมตัวของพลเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 700 ปีที่แล้วนั้นทำให้สวิสต้องใช้ภาษาทางราชการ 4 ภาษา ได้แก่ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลียน และ อังกฤษ และมีภาษาท้องถิ่นอีก 1 ภาษา พื้นที่ของประเทศตั้งอยู่บนภูเขาและที่ราบสูง มีพื้นที่เพาะปลูกเพียง 1/4ของประเทศ และเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตเศรษฐกิจของพลเมืองในประเทศ มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก การเดินทางในประเทศส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟ และรถสาธารณะ มากกว่าการมีรถส่วนตัว นอกจากการคมนาคมสะดวกมากและตรงเวลาแล้วที่จอดรถมีน้อยและค่าเช่าที่จอดรถแพง อากาศในสวิสมีความแตกต่างกันในหน้าร้อนและหน้าหนาว ระหว่างบนพื้นที่ราบ และบนภูเขาสูง บนพื้นที่ราบอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 40-80 F และบนภูเขาอยู่ระหว่าง 25-60 F กิจกรรมยามว่างของชาวสวิสส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมบนเขา เช่น หน้าร้อน เดินเขา ขี่จักรยาน หน้าหนาวเล่นสกี เป็นต้น ระบบการปกครอง ปกครองแบบประชาธิปไตย ในรูปของสมาพันธรัฐ (confederation) ประกอบด้วยมณฑล (Canton) 23 แห่ง ในจำนวนนี้ 3 มณฑลถูกแบ่งออกเป็นกึ่งมณฑล (haft-canton) 6 แห่ง จึงเสมือนประกอบด้วยมณฑลทั้งสิ้น 26 แห่ง
ซึ่งมีอำนาจบริหารภายในของแต่ละมณฑล ส่วนอำนาจบริหารส่วนกลางจะอยู่ที่คณะมนตรีแห่งสมาพันธ์
(Federal Council) ซึ่งเปรียบเท่ากับคณะรัฐมนตรีประกอบด้วยสมาชิกที่เรียกว่า มนตรีแห่งสมาพันธ์
(Federal Councillor) 7 คน มีวาระในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และใน 7 คน จะผลัดกันเป็นประธานาธิบดีคนละ 1 ปี ระบบเศรษฐกิจ การที่ชาวสวิสไม่มีทรัพยากรมาก ทำให้ชาวสวิสยึดการเป็นนักประดิษฐ์และสิ่งใดที่ทำเองไม่ได้จะ
เลือกที่จะตามคนอื่นนำเข้าวัตถุดิบผลิตเป็นสินค้าออกที่สำคัญเป็นผลิตผลที่ได้จากการประดิษฐ์คิดค้น ความเที่ยงตรงและคุณภาพที่สม่ำเสมอจับใจคน อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อิเลคโทรนิค เคมี ยา นาฬิกา รวมถึงกิจการที่เป็นลักษณะของการบริการ การวางแผนการบริการและเทคโนโลยี รวมถึงงานกิจการด้านการโรงแรมและโรงนาที่พัก
การท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นประเทศศูนย์กลางของยุโรปที่นักเดินทางต้องตัดผ่านจากเหนือไปใต้และตะวันออกไปตะวันตก
ระบบการศึกษาประเทศสวิตเซอร์แลนด์
การศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต่างจากระบบการศึกษาในประเทศไทยเล็กน้อย คือ ระบบของสวิสการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมต้นถึงจบมัธยมปลาย ใช้เวลา 13 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับวิชาที่เรียน
และสำหรับสาขาแพทยศาสตร์ จะใช้เวลา 6-7 ปี วุฒิบัตรทางการศึกษาของสวิสเรียกด้วยศัพท์ที่ใช้ในประเทศของเขาเอามาแปลระดับมัธยมปลาย (School leaving Certificate) เรียกคนที่จะผ่านเข้าศึกษาระดับ ม.ปลายต้องผ่านการคัดเลือกมาแล้วตั้งแต่ ม.ต้นว่าเก่งมาก มีจำนวนเพียง 25% ของคนที่จบ ม.ต้นมา ที่เหลือ10% เข้าโรงเรียนเทคนิคและ 60% เรียน ปวช. ปวสเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ปริญญาตรี (Bachelor Degree) ปริญญาโท (Diploma หรือ Post Graduate) และปริญญาเอก (Doctoral Degree) ชาวสวิสไม่มีคำว่า Master Degree
ที่แปลว่า ปริญญาโท ซึ่งเป็นคำภาษาอังกฤษ แบบที่เราคุ้นเคยและในบางประเทศความหมายของคำว่า Diploma
เป็นการศึกษาอีกรูปแบบหนึ่ง มีหลายคนงงกับคำว่า Diploma คำว่า Diploma ในสวิตเซอร์แลนด์เองก็มีการใช้หลายแบบ เช่น หลักสูตรพิเศษ เช่น วิศวกร เภสัชกร หรือใช้กับการศึกษาในสายอาชีพ ที่มีภาคปฏิบัติเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยทั่วไปควรเรียนปริญญาตรี หรือ ปริญญาเอก เลย เนื่องจากไม่มีการเทียบวุฒิการศึกษาอย่างเป็นทางการ การเรียนต่อระดับปริญญาโทค่อนข้างยุ่งยากกว่า แต่มีหลักสูตรปริญญาโทบางหลักสูตร ที่เปิดร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างชาติ มักสอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่นหลักสูตรวิชาการบริหาร การจัดการ และการท่องเที่ยว
การโรงแรม ที่มีชื่อเสียง
ค่าใช้จ่ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มาตรฐานการครองชีพของพลเมืองดีมาก ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่อนข้างสูงการหางานพิเศษทำมีโอกาสน้อยกว่าที่อื่นยกเว้นการทำงานในลักษณะการฝึกงานที่ใช้กับสาขาวิชาการโ
รงแรมที่บังคับให้มีการฝึกงานและได้รับเงินเดือนการเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ก็ไม่ได้แพงกว่าที่อื่นๆ เมื่อเทียบกันแล้วโรงเรียนที่มีมาตรฐานเดียวกันก็มีค่าเล่าเรียนที่ใกล้กันทั่วโลกต่างกันก็ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น การเรียนในสถาบันของรัฐไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน เสียเพียงค่าสมัครค่ารักษาสถานภาพของนักเรียนแต่ละมหาวิทยาลัยก็แตกต่างกัน (ระหว่าง 800-1500 ฟรังค์สวิสต่อปี) ค่าสอบ ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวดังนั้นกฏเกณฑ์การรับเข้าจึงยากกว่าการเข้าเรียนในวิทยาลัยเอกชน ซึ่งต้องเสียค่าเล่าเรียนเป็นเทอมเช่นเดียวกับในอังกฤษ อเมริกาหรือออสเตรเลียและค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุที่นักเรียนทุกคนต้องทำอัตราค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับบริษัท อายุของผู้ทำประกันและระยะเวลา (ระหว่าง 90 – 220 .-ฟรังค์ต่อเดือน) ค่าใช้จ่ายเช่นค่าเล่าเรียน อาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ต้องมีให้พอเพียง สำหรับการเรียนในสถาบันของรัฐโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 15,000.- 20,000.- ฟรังค์สวิส * การเรียนในสถาบันเอกชนแตกต่างกันไประหว่างปีละ 30,000 65,000.- ฟรังค์สวิส* ขึ้นอยู่กับสถาบันและหลักสูตรที่เรียน ซึ่งรวม ค่าเล่าเรียน อาหาร ที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เป็นตัวแปรหลักของค่าใช้จ่ายรวม