ฤดูกาล
ออสเตรเลียจะตรงกันข้ามกับประเทศที่อยู่ทางซีกโลกเหนือเช่นเดียวกับทุกประเทศในซีกโลกใต้
แบ่งออกเป็น 4 ฤดูได้แก่
ฤดูร้อน(ธันวาคม–กุมภาพันธ์)
ฤดูใบไม้ร่วง(มีนาคม–พฤษภาคม)
ฤดูหนาว (มิถุนายน–สิงหาคม)
ฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน–พฤศจิกายน)
ออสเตรเลียนับเป็นประเทศที่มีปริมาณฝนน้อย เนื่องจากพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของทวีปเป็นทะเลทราย ซึ่งมีจำนวนมากถึง 11 แห่ง ส่งผลให้มีปริมาณฝนตกน้อย ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยภายในประเทศเพียง 465 มิลลิเมตรต่อปีและกระจายอย่างไม่ค่อยสม่ำเสมอทั่วทั้งทวีป พื้นดินที่แห้งแล้งที่สุดคือบริเวณแอ่งน้ำทะเลสาบเอย์รี
เวลา
เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ แต่ละพื้นที่ของประเทศจะมีเขตเวลาที่ไม่เท่ากัน แบ่งออกได้เป็น 3 เขตค่ะ เวลามาตรฐานออสเตรเลียตะวันออก (AEST) ครอบคลุมพื้นที่รัฐทางตะวันออก ได้แก่ ควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย แทสเมเนีย และเขตปกครองออสเตรเลียนแคปิตอล AEST มีค่าเท่ากับเวลาสากลเชิงพิกัดบวก 10 ชั่วโมง (UTC +10) เวลามาตรฐานออสเตรเลียกลาง (ACST) ครอบคลุมพื้นที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย เมือง
Broken Hill ทางตะวันออกของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย และเขตปกครองนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี ACST มีค่าเท่ากับเวลาสากลเชิงพิกัดบวก 9½ ชั่วโมง (UTC +9½) เวลามาตรฐานออสเตรเลียตะวันตก (AWST) ครอบคลุมพื้นที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย AWST มีค่าเท่ากับเวลาสากลเชิงพิกัดบวก 8 ชั่วโมง (UTC +8) นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังอยู่ในเขตที่จะต้องทำการปรับเวลา โดยในฤดูร้อน รัฐที่อยู่ทางใต้ได้แก่ รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย รัฐเซาท์ออสเตรเลีย
รัฐแทสเมเนีย และออสเตรเลียนแคปิตอลแทริทอร์รจะปรับเวลาเพิ่มขึ้นหนึ่งชั่วโมงไปเป็นเวลาออมแสง (DST) ซึ่งเวลาออมแสงจะเริ่มต้นที่ 2:00 น. (AEST) ในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมและสิ้นสุดที่ 3:00 น.
(เวลาออมแสงออสเตรเลียตะวันออก) ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน สำหรับรัฐที่ไม่มีการปรับเวลาได้แก่ รัฐควีนส์แลนด์ เขตปกครองนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
รัฐและเขตปกครอง
รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales : NSW)
รัฐวิคตอเรีย (Victoria : VT)
รัฐควีนส์แลนด์ (Queensland : QLD)
รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia: SA)
รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (West Australia : WA)
รัฐแทสมาเนีย (Tasmania : TM)
นอร์ทเทิร์นแทริทอร์รี (Northern Territory : NT)
ระบบการศึกษาของออสเตรเลีย
ประกอบด้วยนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย (Higher Education) นักศึกษาอาชีวศึกษาหรือนักศึกษาของสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพ (Vocational Education and Training: VET) นักเรียนของสถาบันภาษา (English Language Intensive Courses for Overseas Students: ELICOS) นักเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
และนักศึกษากลุ่มอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการเรียนในหลักสูตรปรับพื้นฐานสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (Foundation Course) และหลักสูตรที่ไม่ให้คุณวุฒิเป็นทางการ (Non-award Course) สถาบันการศึกษาในออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักได้แก่ โรงเรียน สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพหรือวิทยาลัย (Vocational Education and Training – VET)
และมหาวิทยาลัยโดยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นอนุบาลหรือเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน (Pre-School) ตามด้วยการเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษารวม 12ปีในปีสุดท้ายของชั้นมัธยมศึกษา (ปี 12) นักเรียนสามารถเลือกที่จะเรียนเพื่อรับประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Secondary Certificate of Education) ที่รัฐบาลรับรองซึ่งเป็นที่ยอมรับจากมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาและการฝึกอบรมสายอาชีพทุกแห่งของออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลายแห่งได้
ระดับการศึกษาในออสเตรเลีย
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นการศึกษาในระบบโรงเรียนจะใช้อายุเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง โดยรัฐบาลแต่ละรัฐจะเป็นผู้บริหารจัดการเองทั้งหมด ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงเรื่องการให้เงินอุดหนุนและการออกกฎระเบียบข้อบังคับที่ใช้ สำหรับดูแลโรงเรียนภายในรัฐ ทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน โรงเรียนของรัฐบาลจะเป็นประเภทไปกลับ (Day School) ส่วนโรงเรียนเอกชนจะมีทั้งโรงเรียนประจำ(Boarding School) และไป-กลับและหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละมลรัฐหรือแต่ละโรงเรียนจะมีความแตกต่างกัน แต่จะอยู่บนหลักสูตรแกนเดียวกันการศึกษาระดับอาชีวศึกษาหรือสถาบันฝึกวิชาชีพเป็นการศึกษาที่เน้นการเตรียมบุคลากรสำหรับการทำงานให้ผู้เรียนที่เรียนจบในระดับมัธยมศึกษาแต่ไม่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือสำหรับนักเรียนที่ต้องการออกมาประกอบอาชีพเลย ปัจจุบันมีผู้นิยมเข้าเรียนในการอาชีวศึกษาเป็นจำนวนมากระบบการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวของแต่ละมลรัฐและหลักสูตรที่ใช้จะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศซึ่งผู้เรียนสามารถย้ายที่เรียนไปเรียนในมลรัฐต่าง ๆ ได้โดยการเรียนหลักสูตรดังกล่าวในมลรัฐหนึ่งจะมีมาตรฐานเดียวกับการเรียนในมลรัฐอื่นๆ
การศึกษาในระดับอุดมศึกษามหาวิทยาลัยในออสเตรเลียในทุกรัฐได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางโดยมหาวิทยาลัยจะมีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการตนเองทั้งในการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนและประเด็นที่เกี่ยวข้องหลักสูตรทั้งหมดซึ่งหลักสูตรที่จัดขึ้นนี้จะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ